วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

บ้านกะทิสด กับ ปาย

วันที่สี่กับบ้านกะทิสดและปายแล้วสินะ

การเดินทางจากบางแสนมาถึงปายกับเป้คนละใบ
แชมป์(เราเอง) ส้มซ่าร์ พี่ไวท์
รถตู้ บางแสน-กรุงเทพ > BTS > MRT>รถไฟฟรีหังลำโพง กรุงเทพ-เชียงใหม่
15ชั่วโมงกับตู้เสบียง และเบียร์เย็นๆ พอเริ่มเข้าภาคเหนือความหนาวเริ่มมาเยือน
ถึงลำปางเท่านั้นแหละ ลำปางหนาวมากจิงๆคะขอบอก


ถึงเชียงใหม่ก็เช้าแล้ว เราก็เดินทางกันต่อ
รถเมย์เชียงใหม่-ปาย
4ชั่วโมงกับ 700 โค้งเห็นจะได้
เหนื่อย แต่สนุก
มาถึงปายก็เกือบเย็นแระ

ชายหนุ่มผิวคล้ำขับมอเตอร์ไซต์ พร้อม รอยยิ้ม กว้างๆ ก็มารับเราทั้งสามคน
พี่กะทิ : บ้านกะทิสด พี่ชายที่แสนดี ไม่เปลี่ยนแปลง


ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันมาเกือบจะ 5 ปีแล้วก็ตาม
พี่กะทิพาพวกเราไปที่บ้านกะทิสดที่ที่เราจะไปซุกหัวนอนกัน
พี่กะทิต้อนรับพวกเราดีมากๆเป็นกันเองไม่ใช่แค่กับเราที่เป็นรุ่นน้องแต่กับลูกค้าทุกๆคน
ทำให้ที่บ้านกระทิสดเปรียบเสมือนบ้านของพวกเราทุกคน
บ้านไม้ไผ่หลังเล็กๆ ประมาน 9 หลัง ลานกางเต้น ต้นไม้ต้นโตกับศาลาปายทางแห่งรัก
เก้าอี้-โต๊ะไม่ตัวเล็กๆน่าลั่ง กองไฟที่คอยให้ความอบอุ่น กับเจ้าของบ้าน:พี่กะทิ
เป็นภาพแรกที่เราก้าวเข้าไปในบริเวณบ้านกะทิสด รู้สึกดียังไงก็ไม่รู้
เก็บข้าวของกับเรียบร้อยค่ำพี่กะทิก็พาเราไปกินข้าวที่ถนนคนเดิน
แถมพาซ้อนจักรยานด้วย
ระหวางทาง ผู้คนตามร้านค้า บอร์ต่าง ส่งรอยยิ้มและทักทายพี่กะทิตลอด
ความเป็นกันเองของพี่กะทิ
ทำให้ช่วงเวลาแค่ไม่กี่ปีกับการเป็นคนต่างถิ่นมาปักหลักที่ปาย
เหมือนกับพี่กะทิอยู่ที่นี้มานาน...มาก
เหมือนกันคนท้องถิ่นเลยที่เดียว
กินข้าว เดินเล่น ที่ถนนคนเดิน
บาร์เก๋ๆ ร้านขายของทำมือ นมร้อนแก้หนาว postcartกับตู้ไปรษณีย์ และผู้คนที่ยิ้มแย้ม
ทำให้เราทั้งสามคนประทับใจมาก

กับไปที่บ้านกะทิสดก็ดึกแล้ว นั่งดืมเบียร์เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย
แล้วเราก็ได้เพื่อนใหม่
พี่ป๊อป กับ น้อง เบย์ ม.แม่ฟ้าหลวง ดีจัง
รู้จักัน1วันราวกับหนึ่งปี
ขอบคุณบ้านกระทิสดที่ทำให้เราได้เจอมิตรภาพ
ซักพักพี่กะทิเจ้าของบ้านใจดีก็มาร่วมวงกับพวกเรา พร้อมกับรอยยิ้มและความเฮฮา
1 วันกับ ปายและบ้านกะทิสด
หมดไปอย่างรวดเร็วแลกกับความสุขกายสบายใจ

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552

back to บางแสนมหานคร

กับมาบางแสนแสนสุขแระ
แหกขี้ตาตื่นแต่เช้า
พรุ่งนี้จะได้รีบเดินทาง....
ไป ปาย สักที

ปาย
ปาย อำเภอเล็ก ๆ ซึ่งเป็นทางผ่านไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ถูกธรรมชาติสรรสร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งหนึ่ง แต่ก็แฝงไว้ซึ่งความงดงามทางธรรมชาติปาย เป็นดินแดนอันแสนจะโรแมนติก และเป็นเมืองในฝันที่หลายท่านอย่างไปซักครั้งหนึ่ง


บ้านกะทิสด....พี่ชายเรา
---เรื่องเล่าจากบ้านกะทิสด---
บ้านกะทิสดเริ่มต้นจากเด็กหนุ่มกรุงเทพ เป็นนักท่องเที่ยวที่หลงไหลในการเดินทาง สไตล์แบ็คแพ็คเกอร์ เขามีนามว่า"นายกะทิ"นั้นก็คือผมเอง เดินทางมาเที่ยวปายครั้งแรกเมื่อ ปี 50 ไม่นานมานี้เอง ครั้งแรกที่เยี่ยบลงแผ่นดินเมืองปายผมบอกกับตังเองว่า จะต้องมาให้ถึงเมืองปาย จริงๆ ไม่ช่ายมาเยียบแค่พื้นดินเมืองปายแล้วก็กลับไปเล่าให้คนอื่นฟัง ว่า "กูมาปายแว้ว"ผมทำความรู้จักกับ ร้านค้า บาร์ ต่างๆ ในเมืองปายน่าแปลกมากที่ว่า ผู้คนที่นี้มีความพอเพียง ใจดี มีน้ำใจกันทุกคน คนที่นี้จะ นุ้มๆ สะบายๆ ไร้ชึ่งสังคมแบบ วัตถุนิคม ทั้งหมดนี้ทำให้ผมหลงไหลเมืองปายเข้าเต็มๆ บางคนบอกว่าเดินสวนกระแสสังคมมันยาก แต่ผมเดินตามโลกในมุมที่แตกต่าง ในใจลึกๆผมกลัวกลัวจะอยู่เมืองปายไม่ได้ แต่ผมปอบใจตัวเองตลอด ผมมีความสุขที่ผมได้ทำในสิ่งที่ผมรัก อยู่ในที่ที่อยากอยู่ บ้านกะทิสด มีแรงบัลดาลใจมาจาก บ้านปายนาของพี่กบกับพี่ปัน ทำให้ผมมองเห็นว่าการทำบ้านพักนี้ไม่ต้องยิ่งใหญ่ ไม่ต้องรวย ก็ทำได้ เล็กๆ ทั่วถึง บอกความเป็นตัวของตังเองให้ชัดเจน เท่านั้นความสุขก็เกิดแล้ว ผมเริ่มเปิดบ้านกะทิสดอย่างเต็มตัววันที่ 22ตุลาคม 2551 เวลาผ่านไปไม่นานความรู้สึกหลงรักเมืองปายยิ่งทวีคูณมากขึ้นมีเพื่อนๆพี่ๆน้อง ที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนให้กำลังใจ ช่วยเหลือ และให้คำแนะนำเป็นอบ่างดี ผมพบเจอนักเที่ยวมากมายหลายรูปแบบ น่ารักๆกันทั้งนั้น ขอบคุณทุกคนที่รักและเคารพเมืองปาย

ขอบคุณพี่ทินะคะที่บอกว่ามาเลยเดี๋ยวหาที่นอนให้จนได้แหละ

06/12/09

blogger คือไรอะ
แต่ก็หลวมตัวมาทำแระ
เผื่อจะอินเทรน

กะลังจะหนีความวุ่นวาย สังคุมยุ่งเหยิง น่ารำคาญ
ไปพักกายพักใจที่ปายสักพัก
ใช้เวลากับตัวเองให้คุมค้า
ไม่ให้ใครเข้ามาก่าวกายเวลาทั้ง24ชั่วโมงในแต่ละวัน
คงจะสุขไม่น้อย

ถ้าหายไปไม่ต้องตกใจเราแค่ไปตามหาความสุข